Loading...

ข้อมูลโครงการพิเศษ

  PDF

โครงการลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้

โรงเรียน : นาหนังพัฒนศึกษา สพม.หนองคาย

ประเภท : โรงเรียนนำร่องโครงการตามนโยบายลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้

ผลการประเมิน : 4.25

เผยแพร่เมื่อ : 11 ก.ย. 2561 โดย :   จำนวนผู้เข้าชม 89 คน


ชื่อโครงการ/กิจกรรม โครงการลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้
ประเภท โรงเรียนนำร่องโครงการตามนโยบายลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้
ปีการศึกษา 2560
มาตรฐาน มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของผู้เรียน
     1.1 ผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการของผู้เรียน
     1.2 คุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้เรียน


     3.1 จัดการเรียนรู้ผ่านกระบวนการคิดและปฏิบัติจริงและสามารถนำไปประยุกต็ใช้ในชีวิตได้
     3.2 ใช้สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศและแหล่งเรียนรู้ที่เอื้อต่อการเรียนรู้
     3.3 มีการบริหารจัดการชั้นเรียบเชิงบวก
     3.4 ตรวจสอบและประเมินผู้เรียนอย่างเป็นระบบและนำผลมาพัฒนาผู้เรียน
     3.5 มีการแลกเปลียนเรียนรู้และให้ข้อมูลสะท้อนกลับเพื่อพัฒนาและปรับปรุงการจัดการเรียนรู้
ผู้รับผิดชอบ
ความเป็นมา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารีทรงมีพระราชดำรัสในเรื่องการศึกษาว่าการจัดการศึกษาต้องดูภาพรวมทั้งประเทศเพราะทุกวันนี้การศึกษาค่อนข้างอ่อนแอและมุ่งเน้นการเรียนการสอนเนื้อหาบางเรื่องมากเกินไปทรงมีพระราชดาริให้มีการนาองค์4แห่งการศึกษาคือพุทธิศึกษาจริยศึกษา
หัตถศึกษาและพลศึกษาและหัวใจนักปราชญ์คือสุจิปุลิหมายถึงการฟังการคิดการถามและการเขียนซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของนักปราชญ์และบัณฑิตอีกทั้งยังจะเป็นเทคนิคในการช่วยให้ผู้เรียนมีทักษะการเรียนเก่ง
มากขึ้นโดยทรงมีพระราชดาริให้นาทั้งสองเรื่องมาใช้ในการจัดการศึกษา

        แนวทางการปฏิรูปการศึกษาอย่างเป็นรูปธรรมนโยบายหนึ่งของรัฐบาลคือการลดเวลาเรียนภาควิชาการลงแต่ต้องไม่กระทบเนื้อหาหลักที่เด็กๆ ควรเรียนรู้ซึ่งหมายความว่าครูต้องใช้ความสามารถในการออกแบบการเรียนรู้ให้นักเรียนได้สาระที่ต้องรู้ครบถ้วนอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นจากนโยบายการลดเวลาเรียนดังกล่าวจึงนามาสู่การปฏิบัติโดยกำหนดให้โรงเรียนเรียนภาควิชาการถึงเวลาบ่าย2โมงครึ่งหรือเวลา14.30น. แต่เวลาที่โรงเรียนเลิกยังคงเหมือนเดิมตามกำหนดของแต่ละโรงเรียนซึ่งมักจะเป็นช่วงบ่าย 4 โมงหรือเวลา 16.00 น. ดังนั้นช่วงระยะเวลาระหว่างหลังเลิกเรียนจนกว่านักเรียนจะกลับบ้านซึ่งนักเรียนยังคงอยู่ที่โรงเรียนโรงเรียนจะต้องจัดกิจกรรมสร้างสรรค์ต่างๆให้นักเรียนปฏิบัติและควรเป็นกิจกรรมที่มีความหลากหลายที่ช่วยเพิ่มพูนทักษะการคิดวิเคราะห์ความมีน้าใจต่อกันการทางานเป็นทีมและที่สำคัญควรมีกิจกรรมกระตุ้นให้เด็กได้ค้นหาศักยภาพและความชอบของตนเองซึ่งเชื่อว่าเด็กทุกคนมีความพิเศษมีความสามารถในแบบฉบับของตนเองการจัดกิจกรรมไม่จาเป็นต้องเปิดให้เฉพาะห้องเดียวกันหรือระดับชั้นเดียวกันบางกิจกรรมสามารถศึกษาหรือทาร่วมกันหลายระดับชั้นได้เพื่อให้เด็กๆรู้จักปรับตัวการช่วยเหลือดูแลกันการมีปฏิสัมพันธ์กับคนหลายช่วงวัยโดยเป็นการจำลองสภาพจริงในสังคมให้เด็กได้เรียนรู้ซึ่งจะยิ่งช่วยเพิ่มทักษะในการแก้ปัญหาให้กับเด็กไทยต่อไป
          การลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้เป็นกรอบวิสัยทัศน์ด้านการศึกษาเพื่อเตรียมนักเรียนให้พร้อมเข้าสู่
การเรียนรู้ในศตวรรษที่
21 ของไทยนั้นสอดคล้องกับของหลายประเทศที่เป็นผู้นำด้านการศึกษาของโลกที่เห็นพ้องกันกับแนวคิดสำคัญในศตวรรษที่ 21 เรื่องของจิตสำนึกต่อโลกความรู้พื้นฐานการประกอบสัมมาอาชีพความรู้พื้นฐานด้านพลเมืองสุขภาพและสิ่งแวดล้อมและทักษะที่จาเป็นในศตวรรษที่ 21อันได้แก่ทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรมทักษะด้านสารสนเทศสื่อและเทคโนโลยีทักษะการทางานทักษะชีวิตที่ใช้ได้จริง (กับครอบครัวโรงเรียนชุมชนรัฐและประเทศชาติ) โลกกำลังเปลี่ยนแปลงคนที่มีความรู้และทักษะในการรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและสามารถปรับตัวเองให้เข้ากับสถานการณ์ใหม่ๆ ได้เท่านั้นที่จะประสบความสำเร็จทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 จะช่วยให้นักเรียนสามารถเรียนรู้และปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา
วัตถุประสงค์ 1. เพื่อขับเคลื่อนการนำหลักสูตรสถานศึกษา ไปสู่การปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตามหลักการ ของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551
2. เพื่อให้สถานศึกษาสามารถบริหารจัดการหลักสูตรสถานศึกษา ส่งเสริมและพัฒนานักเรียนให้มีคุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรู้ มีทักษะในการคิดวิเคราะห์ และได้รับการพัฒนาเต็มตามศักยภาพ ตามความสนใจและถนัดของนักเรียนแต่ละบุคคล
3. เพื่อให้สถานศึกษาสามารถการบริหารจัดการเวลาเรียน และจัดกิจกรรม “ลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้” ได้อย่างเหมาะสม ทั้งด้านวิชาการ ด้านปฏิบัติ นักเรียนได้รับการพัฒนาเต็มตามศักยภาพตามความสนใจและถนัดของแต่ละบุคคล
4. เพื่อให้นักเรียนมีคุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรู้ มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ พัฒนา ตนเองตามความสนใจและความถนัดอย่างเต็มตามศักยภาพและมีความสุขกับการเรียนรู้
5. เพื่อให้พ่อ แม่ ผู้ปกครองและผู้เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษามีความพึงพอใจในการจัดการศึกษาของโรงเรียนและมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา
 
เป้าหมาย 1. เป้าหมายเชิงปริมาณ
         - สถานศึกษาสามารถบริหารจัดการเวลาเรียนและจัดกิจกรรม “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” ได้ตามความสนใจและความถนัดอย่างเต็มตามศักยภาพคิดเป็นร้อยละ 100
2. เป้าหมายเชิงคุณภาพ
          - นักเรียนมีคุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรู้ มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ พัฒนาตนเองตามความสนใจและความถนัดอย่างเต็มตามศักยภาพ และมีความสุขกับการเรียนรู้
ระยะเวลา 16 พ.ค. 2560 - 31 มี.ค. 2561
สถานที่ดำเนินการ โรงเรียนนาหนังพัฒนศึกษา
ตัวชี้วัด 1. สถานศึกษาสามารถบริหารจัดการเวลาเรียนและจัดกิจกรรม“ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” ได้ตามความสนใจและความถนัดอย่างเต็มตามศักยภาพของผู้เรียนคิดเป็นร้อยละ 100
2. นักเรียนมีคุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรู้ มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ พัฒนาตนเองตามความสนใจและความถนัดอย่างเต็มตามศักยภาพ และมีความสุขกับการเรียนรู้
ผลที่คาดว่าจะได้รับ

1.  โรงเรียนนาหนังพัฒนศึกษาสามารถบริหารจัดการเวลาเรียนและจัดกิจกรรม“ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” ได้ตามความสนใจและความถนัดอย่างเต็มตามศักยภาพของผู้เรียน
2. นักเรียนมีคุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรู้ มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ พัฒนาตนเองตามความสนใจและความถนัดอย่างเต็มตามศักยภาพ และมีความสุขกับการเรียนรู้
3. พ่อ แม่ ผู้ปกครอง และผู้เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษามีความพึงพอใจในการจัดการศึกษาของโรงเรียนและมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา

 

สรุปคะแนนประเมิน 4.25
ไฟล์ประกอบ
ขั้นเตรียมการ 1. ศึกษาแผนงาน กำหนดโครงการฯ
2. ขออนุมัติโครงการต่อผู้บริหาร
3. ประชุมครูและผู้เกี่ยวข้องชี้แจงโครงการ
4. ประชาสัมพันธ์โครงการฯ
5. จัดเตรียมสื่อ วัสดุ อุปกรณ์ตามกิจกรรรม
ขั้นดำเนินการ ดำเนินงานตามโครงการ
1. จัดทำข้อมูลสารสนเทศเกี่ยวกับความสนใจความถนัดและความต้องการของผู้เรียนเป็นรายบุคคล
2. วิเคราะห์โครงสร้างหลักสูตรสถานศึกษาและการนำหลักสูตรไปใช้หลักสูตรระดับชั้นเรียนความพร้อมของครูผู้สอนสื่อแหล่งเรียนรู้อาคารสถานที่และห้องปฏิบัติการ
3. ปรับและออกแบบตารางเรียนที่เอื้อต่อการ “ลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้”
4. ออกแบบกิจกรรมที่หลากหลายสอดคล้องกับช่วงวัย สนองความสนใจความถนัดและความต้องการของผู้เรียน
5. ดำเนินการจัดการเรียนรู้และจัดกิจกรรมตามตารางเรียนที่กำหนด

 
ขั้นตรวจสอบประเมินผล นิเทศติดตามประเมินผลการดำเนินงาน
ขั้นสรุปและรายงาน 1. ประชุมเสวนาทบทวนหลังการปฏิบัติงาน (After Action Review : AAR) นำผลไปใช้ในการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
2. สรุปรายงานและเผยแพร่ผลการดำเนินงาน
งบประมาณ รวมเงินงบประมาณ จำนวน 2,500 บาท (สองพันห้าร้อยบาทถ้วน)
 
การบรรลุตัวชี้วัด
ความพึงพอใจ
ปัญหาและอุปสรรค
ข้อเสนอแนะ
รูปภาพประกอบ