Loading...

ข้อมูลโครงการพิเศษ

  PDF

ม่วงเหลืองมีวินัย ใสใจกฎจราจร

โรงเรียน : สุรินทร์พิทยาคม สพม.สุรินทร์

ประเภท : โรงเรียนเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรม และธรรมาภิบาลในสถานศึกษา(โรงเรียนสุจริต)

ผลการประเมิน : 0.00

เผยแพร่เมื่อ : 14 ก.ย. 2561 โดย :   จำนวนผู้เข้าชม 48 คน


ชื่อโครงการ/กิจกรรม ม่วงเหลืองมีวินัย ใสใจกฎจราจร
ประเภท โรงเรียนเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรม และธรรมาภิบาลในสถานศึกษา(โรงเรียนสุจริต)
ปีการศึกษา 2560
มาตรฐาน มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของผู้เรียน
     1.2 คุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้เรียน


     3.1 จัดการเรียนรู้ผ่านกระบวนการคิดและปฏิบัติจริงและสามารถนำไปประยุกต็ใช้ในชีวิตได้
ผู้รับผิดชอบ
ความเป็นมา 1. ความเป็นมาของโครงการ
ในสังคมปัจจุบันนี้ ทั่วโลกมีการใช้รถจักยานยนต์เป็นจำนวนมาก ฉะนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องศึกษาข้อมูลและปฏิบัติตามกฎจราจร และวิธีการขับขี่รถจักรยานยนต์ให้ปลอดภัยอย่างเคร่งครัด เพราะไม่เพียงแต่เพื่อความปลอดภัยของตนเองเท่านั้น ยังส่งผลถึงความปลอดภัยของผู้คนอื่นอีกเป็นจำนวนมาก อุบัติเหตุในการขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่ใช่เกิดขึ้นเพราะเหตุบังเอิญแต่เกิดขึ้นจากการเตรียมการหรือเตรียมตัวในการขับขี่ที่ไม่ดีและความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ดังนั้นจึงควรให้ความสำคัญกับการเตรียมความพร้อมของผู้ขับขี่และความพร้อมของรถจักรยานยนต์รวมไปถึงสภาพแวดล้อมต่างๆรอบตัวดังนั้น จึงต้องตระหนักถึงความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนมากยิ่งขึ้น การขับขี่รถจักยานยนต์ให้ปลอดภัยจึงมีความสำคัญต่อมนุษย์มากยิ่งขึ้น
อันตรายจากอุบัติเหตุในการจราจรของคนไทยพุ่งขึ้นติดอันดับ๑ใน๑๐ของสาเหตุการตายทั้งหมดเมื่อแยกตามประเภทรถที่เกิดอุบัติเหตุพบว่าอุบัติเหตุเกิดจากจักรยานยนต์มากที่สุดและสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการไม่สวมหมวกนิรภัยขณะขับขี่และซ้อนท้ายเมื่อเกิดอุบัติเหตุทำให้ได้รับบาดเจ็บได้รับการกระทบกระเทือนบริเวณศรีษะและสมองอย่างรุนแรงบางรายถึงขั้นพิการถาวรเป็นภาระให้ครอบครัวและสังคมหรือเสียชีวิตในเวลาต่อมาเราจึงทำโครงงานเรื่อง ขับขี่รถจักรยานยนต์อย่างปลอดภัย เพื่อให้คนที่ใช้รถจักรยานยนต์ได้รู้ข้อมูลการขับขี่รถจักรยานยนต์เพิ่มมากขึ้น
กล่าวได้ว่า อุบัติเหตุจากการจราจร เปรียบเสมือนหนึ่งโรคร้ายแรงชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นทุกวัน และคุกคาม  สุขภาพ คุณภาพชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นปัญหาเร่งด่วนที่ทุกคน และทุกหน่วยงานต้องมีส่วน รับผิดชอบ และร่วมมือกันแก้ปัญหา รวมทั้งป้องกันโรคอุบัติเหตุอย่างจริงจัง ซึ่งการจะป้องกันอุบัติเหตุได้ จะต้องทราบถึง สาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุจราจรเสียก่อน
 
วัตถุประสงค์ 2. วัตถุประสงค์ของโครงงาน
     2.1 เพื่อให้ผู้ขับขี่ใช้รถจักรยานยนต์ได้อย่างปลอดภัย
     2.2 เพื่อให้ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ได้รู้เครื่องหมายจราจรและปฏิบัติตามได้อย่างถูกต้อง
     2.3 เพื่อที่จะนำข้อมูลการขับขี่รถจักรยานยนต์บนท้องถนนไปเผยแพร่ให้ผู้ใช้รถใช้ถนนได้รับรู้
     2.4 เพื่อให้ผู้ใช้รถใช้ถนนสามารถตัดสินใจเวลาเกิดเหตุการณ์เฉพาะหน้าได้ขณะขี่รถจักรยานยนต์
 
เป้าหมาย 1. นักเรียนขับขี่รถจักรยานยนต์อย่างปลอดภัย
 2. นักเรียนขับรถจักรยานยนต์ได้อย่างถูกต้อง
 3. นักเรียนรู้กฎหมายจราจรในการขับขี่รถจักรยานยนต์
 4. คนรุ่นหลังสามารถได้รับความรู้เกี่ยวกับการขับขี่รถจักรยานยนต์อย่างปลอดภัยได้อย่างทั่วถึง
  5. นักเรียนหรือบุคคลทั่วไปสามารถนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้
 
ระยะเวลา 15 มิ.ย. 2561 - 30 มี.ค. 2562
สถานที่ดำเนินการ โรงเรียนสุรินทร์พิทยาคม
ตัวชี้วัด นักเรียนที่ปฏิบัติตามกฎระเบียบการเข็นรถเข้าและออก มากที่สุด คือ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1, 2, 4 และ 5 คิดเป็นร้อยละ 90.00 ขึ้นไป
ผลที่คาดว่าจะได้รับ ประโยชน์ที่ได้รับจากโครงงาน
     4.1 นักเรียนได้ความรู้เกี่ยวกับ การขับขี่รถจักรยานยนต์อย่างปลอดภัย
     4.2 นักเรียนได้รู้วิธีขับรถจักรยานยนต์ได้อย่างถูกต้อง
     4.3  นักเรียนได้รู้กฎหมายจราจรในการขับขี่รถจักรยานยนต์
     4.4  คนรุ่นหลังสามารถได้รับความรู้เกี่ยวกับการขับขี่รถจักรยานยนต์อย่างปลอดภัยได้อย่างทั่วถึง
     4.5 นักเรียนหรือบุคคลทั่วไปสามารถนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้
 
สรุปคะแนนประเมิน 0.00
ไฟล์ประกอบ โครงการม่วงเหลือง
ขั้นเตรียมการ
ขั้นดำเนินการ
ขั้นตรวจสอบประเมินผล
ขั้นสรุปและรายงาน
งบประมาณ -
การบรรลุตัวชี้วัด      4.1 นักเรียนได้ความรู้เกี่ยวกับ การขับขี่รถจักรยานยนต์อย่างปลอดภัย
     4.2 นักเรียนได้รู้วิธีขับรถจักรยานยนต์ได้อย่างถูกต้อง
     4.3  นักเรียนได้รู้กฎหมายจราจรในการขับขี่รถจักรยานยนต์
     4.4  คนรุ่นหลังสามารถได้รับความรู้เกี่ยวกับการขับขี่รถจักรยานยนต์อย่างปลอดภัยได้อย่างทั่วถึง
     4.5 นักเรียนหรือบุคคลทั่วไปสามารถนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้
 
ความพึงพอใจ โครงงานนี้จัดทำขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้ (1) เพื่ออบรมให้เยาวชน เกิดความรู้ความตระหนัก ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมาย จราจร มารยาทในการขับขี่และรู้จักวิธีการป้องกันตัวเองขณะขับขี่ยานพาหนะ
(2) เพื่อกำหนดให้สถานศึกษาที่เข้าร่วมโครงการฯ จัดเป็นเขตสวมหมวก และคาดเข็ม   ขัดนิรภัย
(3) เพื่อสร้างแกนนำนักเรียนในการรณรงค์ ประซาสัมพันธ์เกี่ยวกับการป้องกันควบคุม อุบัติเหตุจราจร พบว่า
ผลการบันทึกพฤติกรรมการเข็นรถเข้า/ออกภายในโรงเรียน  พบว่า ในเดือนกรกฎาคม นักเรียนที่ปฏิบัติตามกฎระเบียบการเข็นรถเข้าและออก มากที่สุด คือ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1, 2, 4 และ 5 คิดเป็นร้อยละ 100.00 และในภาพรวมคิดเป็นร้อยละ 90.14
          เดือนสิงหาคม นักเรียนที่ปฏิบัติตามกฎระเบียบการเข็นรถเข้าและออก มากที่สุด คือ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1, 2, 4, 5 และ 6 คิดเป็นร้อยละ 100.00  และในภาพรวมคิดเป็นร้อยละ 95.77
          เดือนกันยายน นักเรียนที่ปฏิบัติตามกฎระเบียบการเข็นรถเข้าและออก มากที่สุด คือ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1, 2, 4, 5 และ 6 คิดเป็นร้อยละ 100.00  และในภาพรวมคิดเป็นร้อยละ 97.18
ผลการบันทึกพฤติกรรมการสวมหมวกนิรภัย  พบว่า ในเดือนกรกฎาคม นักเรียนที่ปฏิบัติตามกฎระเบียบการเข็นรถเข้าและออก มากที่สุด คือ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 คิดเป็นร้อยละ 77.78 และในภาพรวมคิดเป็นร้อยละ 52.11
          เดือนสิงหาคม นักเรียนที่ปฏิบัติตามกฎระเบียบการเข็นรถเข้าและออก มากที่สุด คือ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 และ 5 คิดเป็นร้อยละ 100.00  และในภาพรวมคิดเป็นร้อยละ 81.69
          เดือนกันยายน นักเรียนที่ปฏิบัติตามกฎระเบียบการเข็นรถเข้าและออก มากที่สุด คือ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4, 5 และ 6 คิดเป็นร้อยละ 100.00  และในภาพรวมคิดเป็นร้อยละ 88.73
 
ปัญหาและอุปสรรค งบประมาณในการจัดอบรมนักเรียนเพื่อให้ความรู้ โรงเรียนจะต้องใช้งบประมาณเอง ซึ่งโรงเรียนสุรินทร์พิทยาคมเป็นโรงเรียนขนาดเล็กมีข้อจำกัดด้านงบประมาณ
ข้อเสนอแนะ งบประมาณในการสนับสนุนในการดำเนินงาน
รูปภาพประกอบ