Loading...

ข้อมูลโครงการพิเศษ

  PDF

โครงการลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้

โรงเรียน : สามัคคีศึกษา สพม.ตรัง กระบี่

ประเภท : โรงเรียนนำร่องโครงการตามนโยบายลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้

ผลการประเมิน : 3.70

เผยแพร่เมื่อ : 24 ก.ย. 2561 โดย : จันทรา ชำนาญดง จำนวนผู้เข้าชม 193 คน


ชื่อโครงการ/กิจกรรม โครงการลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้
ประเภท โรงเรียนนำร่องโครงการตามนโยบายลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้
ปีการศึกษา 2560
มาตรฐาน
     1.1 ผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการของผู้เรียน
     1.2 คุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้เรียน

     2.1 มีเป้าหมายวิสัยทัศน์และพันธกิจที่สถานศึกษากำหนดขัดเจน
     2.3 ดำเนินงานพัฒนาวิชาการที่เน้นคุณภาพผู้เรียนรอบด้านตามหลักสูตรสถานศึกษาและทุกกลุ่มเป้าหมาย

     3.1 จัดการเรียนรู้ผ่านกระบวนการคิดและปฏิบัติจริงและสามารถนำไปประยุกต็ใช้ในชีวิตได้
     3.5 มีการแลกเปลียนเรียนรู้และให้ข้อมูลสะท้อนกลับเพื่อพัฒนาและปรับปรุงการจัดการเรียนรู้
ผู้รับผิดชอบ
ความเป็นมา พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542และแก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่2) พ.ศ.2545  มาตราที่ 22    การจัดการศึกษาต้องยึดหลักว่าผู้เรียนทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้และถือว่าผู้เรียนสำคัญที่สุด  กระบวนการจัดการศึกษาต้องส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาตามธรรมชาติและเต็มตามศักยภาพครูผู้สอนต้องปรับเปลี่ยนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาด้านความรู้และทักษะที่จำเป็น 8 ประการของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21   นอกจากนั้นครูต้องออกแบบกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ให้ครอบคลุมทั้ง 4 หมวด ประกอบด้วย  หมวดที่ 1 กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน  หมวดที่ 2 สร้างเสริมสมรรถนะและการเรียนรู้  หมวดที่ 3 สร้างเสริมคุณลักษณะและค่านิยม  และ หมวดที่ 4  สร้างเสริมทักษะการทำงาน  การดำรงชีพ และทักษะชีวิต   เพื่อแก้ปัญหานักเรียนคิดไม่เป็น  วิเคราะห์   ไม่ได้   ขาดทักษะชีวิต  
 ดังนั้น ทางโรงเรียนสามัคคีศึกษาเห็นถึงความจำเป็นในการน้อมนำพระราชดำรัสของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และนโยบายของรัฐบาลเกี่ยวกับการบริหารจัดการเวลาเรียน “ลดเวลาเรียน  เพิ่ม เวลารู้” มาสู่การปฏิบัติในโรงเรียนอย่างเป็นรูปธรรม  เพื่อให้นักเรียนได้รับการพัฒนาให้มีคุณภาพ  และมีความสุข   อย่างแท้จริง  จึงได้จัดทำโครงการลดเวลาเรียน  เพิ่มเวลารู้
 
วัตถุประสงค์  
  1. เพื่อปรับโครงสร้างเวลาเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
  2. เพื่อให้นักเรียนมีคุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรู้ มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์  พัฒนาตนเอง
ตามความถนัดและมีความสุขกับการเรียนรู้
  1. เพื่อให้พ่อ  แม่   ผู้ปกครอง และผู้เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษามีความพึงพอใจในการจัดการศึกษาของโรงเรียนและมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา
เป้าหมาย 1. เป้าหมายเชิงปริมาณ
  1. หลักสูตรสถานศึกษาได้รับการปรับปรุงทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้
  2. ผู้เรียนทุกคนได้เข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาทักษะทั้ง 4 หมวด
  3. พ่อ แม่  ผู้ปกครอง และผู้เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษามีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา  

2. เป้าหมายเชิงคุณภาพ
  1. โครงสร้างเวลาเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนต้นไม่เกิน 1,200 ชั่วโมงต่อปี
  2. นักเรียนมีทักษะการคิดวิเคราะห์และสามารถสรุปองค์ความรู้ได้ด้วยตนเอง
  3. โรงเรียนจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามความต้องการของชุมชน
ระยะเวลา 1 ต.ค. 2559 - 30 ก.ย. 2560
สถานที่ดำเนินการ โรงเรียนสามัคคีศึกษา
ตัวชี้วัด นักเรียนมีความพึงพอใจกับกิจกรรมลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ระดับดี
ผลที่คาดว่าจะได้รับ  
  1. นักเรียนมีคุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรู้ มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ พัฒนาตนเองตามความสนใจและความถนัดอย่างเต็มศักยภาพ และมีความสุขกับการเรียนรู้
  2. พ่อ แม่ ผู้ปกครอง และผู้เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษามีความพึงพอใจในการจัดการศึกษาของโรงเรียนและมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา
สรุปคะแนนประเมิน 3.70
ไฟล์ประกอบ
ขั้นเตรียมการ
 
    1. อบรมบุคลากรรับรู้นโยบายลดเวลาเรียน
    2. ประชุมครูวางแผนการดำเนินงานตามโครงการ
    3. จัดทำและเสนอขออนุมัติโครงการ
    4. แต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินงาน
ขั้นดำเนินการ  
  1. สำรวจและปรับปรุงโครงสร้างเวลาเรียน
  2. จัดทำตารางเรียน
  3. จัดทำตารางวิเคราะห์กิจกรรม 4 หมวด
  4. วางแผนการจัดกิจกรรม 8 กลุ่มสาระ
  5. ออกแบบกิจกรรม 4 หมวด
  6. จัดทำบันทึกผลหลังจัดกิจกรรม
  7. จัดทำเครื่องมือประเมินผล
  8. จัดทำปฏิทินการจัดกิจกรรมแบบบูรณาการ
  9. จัดทำฟอร์มการจัดกิจกรรม
  10. จัดทำปฏิทิน AAR  ระดับโรงเรียน
  11. แต่งตั้งคณะกรรมการนิเทศการจัดกิจกรรม
  12. จัดทำปฏิทินการนิเทศระดับโรงเรียน
  13. ประชุมกรรมการสถานศึกษาและผู้ปกครอง
ขั้นตรวจสอบประเมินผล
    1. รายงานผลการจัดกิจกรรม
    2. รายงานผลการนิเทศ
ขั้นสรุปและรายงาน 1. สรุปผลรายงานโครงการ
2. ประชุมปรึกษาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
งบประมาณ ตาราง 1 การใช้จ่ายงบประมาณ
รายการ งบประมาณที่กำหนดไว้ในแผน งบประมาณที่ใช้จ่ายจริง
1.เงินอุดหนุนการศึกษา - -
2.เงินรายได้สถานศึกษา - -
3.อื่นๆ ุ- -
รวม 60,048  
คงเหลือ  
การบรรลุตัวชี้วัด 1.ผลสำเร็จตามตัวชี้วัดความสำเร็จ
ตัวชี้วัดความสำเร็จ ร้อยละของผลสำเร็จ
เป้าหมาย ผลการดำเนิน
1.นักเรียนมีความพึงพอใจกับกิจกรรมลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ 65 70
     
     
     
2. สรุปผลสำเร็จของโครงการ
    ผลสำเร็จของโครงการโดยรวม                               คิดเป็นร้อยละ ..70......
    ระดับความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมโครงการโดยรวม      มีค่าเฉลี่ย .......3.7......
                                                                          อยู่ในระดับ ....มาก........
    เกณฑ์การสรุปผลค่าเฉลี่ยของระดับความพึงพอใจ
                      4.40 – 5.00     หมายถึง           มีความพึงพอใจในระดับ   มากที่สุด         
                   3.70 – 4.39     หมายถึง          มีความพึงพอใจในระดับ   มาก
                   3.00 – 3.69     หมายถึง          มีความพึงพอใจในระดับ   ปานกลาง       
                   2.30 – 2.99     หมายถึง          มีความพึงพอใจในระดับ   น้อย
                   1.00 – 2.29     หมายถึง          มีความพึงพอใจในระดับ   น้อยที่สุด
ความพึงพอใจ ตาราง 2 ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม/แบบประเมิน
ข้อมูลทั่วไป จำนวน (คน) ร้อยละ
1. เพศ
    1.1 ชาย
    1.2 หญิง

67
33

67
33
รวม 100 100
2. อายุ
    2.1 น้อยกว่า 25 ปี
    2.2 25-35 ปี
    2.3 36-45 ปี
    2.4 มากกว่า 45 ปี

89
5
3
3

89
5
3
3
รวม 100 100
จากตาราง 2 พบว่า ผู้เข้าร่วมโครงการ/กิจกรรม ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงมีจำนวน ......67.... คน (ร้อยละ ……67…….) อายุ น้อยกว่า 25 ปี มีจำนวน .....89.... คน (ร้อยละ .....89........)    25-35 ปี มีจำนวน ......5...... คน (ร้อยละ ....5.........) 36-45 ปี มีจำนวน .....3....... คน (ร้อยละ .....3..........) ฯลฯ
 
ปัญหาและอุปสรรค 1.การบริหารเวลาการจัดกิจกรรมลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้
2.การเอาใจใส่ดูแลของครูผู้จัดกิจกรรมลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้
3.อุปกรณ์หรือเตรื่องมือในการจัดกิจกรรม
ข้อเสนอแนะ 1. ด้านการบริหารการจัดกิจกรรม โรงเรียนควรมีการศึกษารายละเอียดข้อมูลให้
ชัดเจนและถูกต้องก่อนที่จะกำหนดเวลาเรียน ประชุมชี้แจงให้ครูผู้จัดกิจกรรมทราบทุกขั้นตอนในการจัดกิจกรรม
2. ด้านบริหารเวลาจัดกิจกรรม ควรจัดเวลาให้เหมาะสมกับความรู้สามารถและกิจกรรม มอบหมายหน้าที่ให้ชัดเจน วางแผนกิจกรรม ทำงานอย่างมีระบบและทำงานเป็นทีม
3. ด้านการเอาใจใส่ดูแลของครูผู้จัดกิจกรรม มีการกำกับติดตามและประเมินผลทุกครั้งที่ได้รับมอบหมาย ควรมีการนิเทศ ติดตามเป็นระยะ และมีการรายงานผลต่อผู้บริหารโรงเรียนอย่างต่อเนื่อง
รูปภาพประกอบ