โรงเรียน : หนองนางพิทยาคม สพม.หนองคาย
ประเภท : โรงเรียนมาตรฐานสากล (World-Class Standard School)
ผลการประเมิน : 0.00
เผยแพร่เมื่อ : 1 ส.ค. 2563 โดย : จำนวนผู้เข้าชม 24 คน
ชื่อโครงการ/กิจกรรม | โครงการจิตศึกษา Problem-based Learning (PBL) |
ประเภท | โรงเรียนมาตรฐานสากล (World-Class Standard School) |
ปีการศึกษา | 2563 |
มาตรฐาน |
มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของผู้เรียน มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจัดการ มาตรฐานที่ 3 กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ |
ผู้รับผิดชอบ | |
ความเป็นมา | ความหมาย จิตศึกษาใช้นวัตกรรมจิตศึกษาเป็นเครื่องมือในการพัฒนาปัญญาภายใน และ ออกแบบการเรียนรู้บูรณาการโดยใช้ปัญหาเป็นฐาน PBL (Problem Based Learning) และ เรียนรู้ผ่านชุมชนการเรียนรู้ของครู (Professional Learning Community) หรือ PLC อันเป็นวงคุยของครูเพื่อทบทวน วิเคราะห์ และพัฒนาการออกแบบการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบของโรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา ในฐานะโรงเรียนพี่เลี้ยงในการปรับการจัดการเรียนรู้ของโรงเรียนเครือข่าย (โรงเรียนที่มีก้อนหินใหญ่ยักษ์หน้าประตูโรงเรียน บนนั้นปรากฏอักษรประดิษฐ์วางเรียงเขียนข้อความว่า – ไม่มีหินก้อนใดโง่ โรงเรียนนอกกะลา – และนี่อาจอธิบายเหตุผลได้ว่าทำไมครูเครือข่ายโรงเรียนนำร่องในโครงการพื้นที่นวัตกรรม จึงมารวมตัวกันที่นี่) จิตศึกษา หมายถึง การนั่งจับกลุ่มเป็นวงกลม ครูไม่ได้นั่งสูงกว่า นักเรียนไม่ได้นั่งต่ำกว่า แต่เป็นวงล้อมรอบที่ทุกคนนั่งเสมอกัน และพูดคุยแสดงความคิดเห็นในประเด็นใดประเด็นหนึ่งอย่างเคารพว่านี่คือ ‘ความคิดของเขา’ ไม่ตัดสิน ไม่เยาะเย้ย ไม่ดูแคลน ไม่ใช่แค่ให้ออกความเห็นอย่างเสมอภาค แต่จิตศึกษาออกแบบกระบวนการเพื่อให้ผู้เรียนแตกยอดความคิดด้วยตัวเอง ด้วยกระบวนการดังนี้ กิจกรรม ‘Brain Gym’ หรือ กิจกรรมบริหารสมอง แต่ลดรูปให้เหลือเพียงการจัดท่าทางร่างกายที่ต้องใช้สมาธิจดจ่อจึงจะทำได้ เช่น กำหนดให้มือข้างซ้ายชูนิ้วชี้และนิ้วก้อย มือข้างขวากำหลวมๆ จากนั้นจึงสลับมาชูนิ้วชี้และนิ้วก้อยด้วยมือข้างขวา ขณะที่ข้างซ้ายเปลี่ยนมากำหลวมๆ แทน สลับกันไปอย่างนี้จำนวน 20 ครั้ง หรือ ออกแบบการเคลื่อนไหวสลับข้างอื่นๆ เพื่อบริหารการทำงานของสมองซีกซ้ายและขวา ขั้นชง คือขั้นที่ครูเป็นผู้เปิดประเด็นว่าวันนี้จะมา ‘พูดคุยกันในประเด็นไหน’ ส่วนใหญ่ครูเปิดวงด้วยการให้ผู้เรียนดูคลิปวิดีโอ หรือ เล่าสถานการณ์ และคำถามในขั้นชงนี้ จะเป็นคำถามที่แค่ย้ำกับนักเรียนเพื่อทวนข้อมูลว่าผู้เรียนเข้าใจข้อมูลตรงกันหรือไม่ เช่น ผู้เรียน ‘สังเกตเห็น’ อะไรบ้าง ในเรื่องนี้มีตัวละครกี่ตัว ใครบ้าง หรือคำถามอื่นในเชิง ‘การสังเกต’ เชื่อม คือการ ‘เซ็ตคำถาม’ จากครู ว่าเรื่องเล่าหรือคลิปวิดีโอสั้นที่นักเรียนได้ดูนั้น ‘เกี่ยวข้องกับตัวเองอย่างไร’ รู้สึก กับตัวละครนั้นอย่างไร กล่าวคือ เป็นคำถามที่ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องเล่าแต่เคลื่อนสถานการณ์นั้นมาที่ตัวผู้เรียน เช่น หากในเรื่องมีตัวละคร 3 ตัวที่เกี่ยวเนื่องกัน ครูอาจถามว่า ผู้เรียนเห็นใจตัวละครไหนที่สุด หรือ ชอบตัวละครไหนที่สุด ชอบหรือเห็นใจเพราะอะไร ใช้ ในขั้น ‘ใช้’ คือการถามคำถามประเภท ‘จำลองสถานการณ์’ หากผู้เรียนต้องตกอยู่ในสถานการณ์นั้น ผู้เรียน (หรือเรา) จะทำอย่างไร เช่น หากนักเรียนเป็นตัวละคร A (อาจเป็นตัวที่ผู้เรียนชอบหรือไม่ชอบก็ได้) และต้องอยู่ในสถานการณ์เช่นนั้น นักเรียนจะทำอย่างไร เคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้ในชีวิตจริงไหม ถ้ามี เราจะจัดการอย่างไร? |
วัตถุประสงค์ | 1. เพื่อพัฒนาครูนำPBLมาใช้ในพัฒนาการจัดกระบวนการเรียนรู้ทุกกลุ่มสาระ |
เป้าหมาย | 3.1 เชิงปริมาณ 3.1.๑ ครูมีความรู้ความสามารถในการนำปัญหาและอุปสรรคจากการเรียนการสอนมาแก้ไข โดยใช้ PBL มาพัฒนาการจัดการเรียนการสอนให้ดีขึ้น 3.2 เชิงคุณภาพ 3.2.1 ครูสามารถแก้ไขปัญหาการจัดการเรียนการสอน โดยใช้กระบวนการ PBL ได้อย่างมี ประสิทธิภาพ |
ระยะเวลา | 1 ก.ค. 2563 - 15 เม.ย. 2564 |
สถานที่ดำเนินการ | โรงเรียนหนองนางพิทยาคม |
ตัวชี้วัด | |
ผลที่คาดว่าจะได้รับ | ครูได้วิธีการ/นวัตกรรม จาก PBL มาใช้ในพัฒนาการจัดกระบวนการเรียนรู้ |
สรุปคะแนนประเมิน | 0.00 |
ไฟล์ประกอบ |
โครงการจิตศึกษาPBL63.doc |
ขั้นเตรียมการ | |
ขั้นดำเนินการ | |
ขั้นตรวจสอบประเมินผล | |
ขั้นสรุปและรายงาน | |
งบประมาณ | |
การบรรลุตัวชี้วัด | |
ความพึงพอใจ | |
ปัญหาและอุปสรรค | |
ข้อเสนอแนะ | |
รูปภาพประกอบ |