ชื่อโครงการ/กิจกรรม |
โครงการข้าวนาพื้นเมืองน่ารู้คู่ภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง |
ประเภท |
โรงเรียนที่จัดกิจกรรมการเรียนรู้ฯ ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง |
ปีการศึกษา |
2561 |
มาตรฐาน |
3.1 จัดการเรียนรู้ผ่านกระบวนการคิดและปฏิบัติจริงและสามารถนำไปประยุกต็ใช้ในชีวิตได้ |
ผู้รับผิดชอบ |
|
ความเป็นมา |
ชื่อโครงการ ข้าวนาพื้นเมืองน่ารู้คู่ภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
ยุทธศาสตร์ที่ 5 การสร้างความเข้มแข็งของชุมชนและสังคม
แผน/แผนงาน แผนปฏิบัติราชการประจำปีของจังหวัดน่าน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2561
งบประมาณ 50,000 บาท
ผู้รับผิดชอบโครงการ นางสาวจงรักษ์ ใหม่คำ
ระยะเวลาดำเนินการ กุมภาพันธ์ 61 – กันยายน 2561
...................................................................................................................................................................................................
1.หลักการและเหตุผล
“ข้าวต้องปลูก เพราะอีก 20 ปี ประชากรอาจจะ 80 ล้านคน ข้าวจะไม่พอ ถ้าลดการปลูกข้าวไปเรื่อย ๆ ข้าวจะไม่พอ เราจะต้องซื้อข้าวจากต่างประเทศเรื่องอะไร ประชาชนคนไทยไม่ยอม คนไทยนี้ต้องมีข้าว แม้ข้าวที่ปลูกในเมืองไทยจะสู้ข้าวที่ปลูกในต่างประเทศไม่ได้ เราก็ต้องปลูกข้าว”
จากกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อปี 2536 แสดงให้เห็นถึงสายพระเนตรอันยาวไกลที่ทรงห่วงใยพสกนิกรเกรงจะขาดแคลนข้าวสำหรับบริโภค ทรงเน้นย้ำให้มีการปลูกข้าวในประเทศอย่างเพียงพอ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณแก่ปวงชนชาวไทย อย่างหาที่สุดมิได้
บนพื้นที่นา 60 ล้านไร่ที่ทอดตัวยาวไกลไปจนสุดขอบฟ้า คือแผ่นดินล้ำค่าที่บรรพบุรุษใช้เป็นพื้นที่ปลูกข้าวหล่อเลี้ยงชีวิตลูกหลานไทยมาจนทุกวันนี้ ไม่ว่าจะผ่านมาเนิ่นนานสักเพียงใด แต่ข้าวก็ยังไม่เคยขาดหายไปจากแผ่นดินผืนนี้เลยกลับทวีความสำคัญเป็นพืชที่ทรงคุณค่าทั้งในแง่ของการเป็นอาหารหลักของคนไทย และเป็นสินค้าออกที่สร้างรายได้เข้าประเทศปีละนับแสนล้านบาท ทุกวันนี้ข้าวไทยมีชื่อเสียงไปทั่วโลก แต่ชาวนาไทยกลับมีชีวิตที่ยากจน มีรายได้จากการขายข้าวเพียงน้อยนิด ซึ่งเทียบไม่ได้เลยกับคุณค่าของข้าวที่พวกเขาปลูก และในปัจจุบันลูกหลานของชาวนาไทยก็ไม่เห็นความสำคัญของอาชีพการทำนา มุ่งเน้นแต่จะประกอบอาชีพที่สบายรายได้ดี จนลืมไปอาชีพการทำนาปลูกข้าวนั้น เป็นกระดูกสันหลังของชาติ ที่ทุกคนต้องพึ่งพิงไปตลอดชีวิตเพราะทุกคนต้องกินข้าว ไม่ว่าจะประกอบอาชีพใดก็ต้องกินข้าว ดังนั้นข้าวจึงเป็นที่มาของผลิตภัณฑ์อาหาร อาหารเสริม ยารักษาโรค วัฒนธรรมประเพณีความเชื่อ หรือพิธีกรรมที่ปฏิบัติ ซึ่งจะทำทุกขั้นตอนของการปลูกข้าวและถือเป็นเรื่องสำคัญเพราะเชื่อว่าจะทำให้การเพาะปลูกได้ผลดี
พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช 2542 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พุทธศักราช 2545 มาตรา 7 ระบุว่าในการจัดกระบวนการเรียนรู้ต้องมุ่งปลูกฝังจิตสำนึกที่ถูกต้องเกี่ยวกับการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข รู้วิธีรักษาและส่งเสริม สิทธิ หน้าที่ เสรีภาพ ความเคารพกฎหมาย ความเสมอภาค และศักดิ์ศรี ความเป็นมนุษย์ มีความภาคภูมิใจในความเป็นไทย รู้จักรักษาผลประโยชน์ส่วนรวมและ
ของประเทศชาติ รวมทั้งส่งเสริมศาสนา ศิลปวัฒนธรรมของชาติ การศึกษาภูมิปัญญาท้องถิ่นภูมิปัญญาไทยและความรู้อันเป็นสากล ตลอดจนอนุรักษ์ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม มีความสามารถในการประกอบอาชีพ รู้จักพึ่งตนเอง มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ใฝ่รู้และเรียนรู้ ด้วยตนเองอย่างต่อเนื่อง และมาตรา 27 ให้คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกำหนดหลักสูตรแกนกลางของหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อความเป็นไทย ความเป็นพลเมืองที่ดีของชาติ การดำรงชีวิตตลอดจนการศึกษาต่อ
คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีหน้าที่จัดทำสาระของหลักสูตรในส่วนที่เกี่ยวข้องกับสภาพปัญหาในชุมชนและสังคม ภูมิปัญญาท้องถิ่น คุณลักษณะอันพึงประสงค์ เพื่อเป็นสมาชิกที่ดีของครอบครัว ชุมชน สังคมและประเทศชาติ
หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2544 มีจุดมุ่งหมายในการพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ เป็นคนดี มีปัญญา มีความสุขและมีความเป็นไทย โดยกำหนดคุณลักษณะที่พึงประสงค์ที่จะเกิดกับนักเรียน คือ มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์ภาษาไทย ศิลปวัฒนธรรม ประเพณี กีฬา ภูมิปัญญาไทย ทรัพยากรธรรมชาติและพัฒนาสิ่งแวดล้อมส่วนการจัดทำหลักสูตรได้กำหนดว่า หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานที่สถานศึกษานำไปใช้จัดการเรียนรู้ในสถานศึกษานั้น กำหนดโครงสร้างที่เป็นสาระการเรียนรู้จำนวนเวลาอย่างกว้างไว้ สถานศึกษาต้องนำโครงสร้างดังกล่าวไปจัดทำเป็นหลักสูตรสถานศึกษา โดยคำนึงถึงสภาพปัญหา ความพร้อม เอกลักษณ์ ภูมิปัญญาท้องถิ่นและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ทั้งนี้สถานศึกษาต้องจัดทำรายวิชาในแต่ละกลุ่มให้ครบถ้วนตามมาตรฐานที่กำหนดไว้
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์นั้น เป็นกลุ่มสาระการเรียนรู้เกี่ยวกับธรรมชาติ โดยมนุษย์ใช้กระบวนการสังเกต สำรวจ ตรวจสอบ มุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้เรียนรู้เกี่ยวกับธรรมชาติ ศึกษาค้นคว้าด้วยตนเองมากที่สุด เพื่อให้นำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในการดำรงชีวิตและต่อสังคม นอกจากนี้วิทยาศาสตร์ทำให้คนได้พัฒนาวิธีคิดเป็นเหตุเป็นผล คิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ คิดสร้างสรรค์ มีทักษะที่สำคัญในการค้นคว้าหาความรู้ มีความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างมีระบบวิทยาศาสตร์เป็นวัฒนธรรมของโลกสมัยใหม่ ซึ่งเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ ทุกคนจึงจำเป็นต้องได้รับความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เพื่อสามารถใช้ข้อมูลหลากหลายในการคิดตัดสินใจช่วยให้มีความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้อง เกี่ยวกับการใช้ประโยชน์ การดูแลรักษาและอนุรักษ์สืบทอดภูมิปัญญาท้องถิ่น ทั้งนี้การศึกษาค้นคว้าและการใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ต้องอยู่ภายในขอบเขตคุณธรรม จริยธรรมและเป็นที่ยอมรับของสังคมด้วย
การจัดกิจกรรมให้นักเรียนได้เรียนรู้เกี่ยวกับภูมิปัญญาท้องถิ่นโดยใช้ข้าวนาพื้นเมือง ซึ่งเป็นพืชอาหารหลักในท้องถิ่น ให้นักเรียนได้เรียนรู้โดยผ่านกระบวนการเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์ ให้นักเรียนศึกษาทดลองปลูกข้าวนาพื้นเมืองทุกขั้นตอนของการทำนาข้าวจนได้ผลผลิตเป็นเมล็ดข้าว ซึ่งจะทำให้นักเรียนใช้ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และวิธีการทางวิทยาศาสตร์ เป็นเครื่องมือในการแสวงหาความรู้ มีความรู้ความเข้าใจ การใช้ประโยชน์ความหลากหลายทางชีวภาพของข้าวนาพื้นเมืองอย่างมีคุณค่ามากขึ้น ซึ่งการจัดการเรียนการสอนในกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ มุ่งหวังให้ผู้เรียนได้เรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่เน้นทักษะกระบวนการไปสู่การสร้างองค์ความรู้ กำหนดคุณภาพของผู้เรียนเข้าใจเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิต ตลอดกระบวนการดำรงชีวิต ความหลากหลายทางชีวภาพและความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งแวดล้อม โดยใช้กระบวนการสืบเสาะแสวงหาความรู้แก้ปัญหา ด้วยการปฏิบัติจริง ศึกษาค้นคว้า จากแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย เชื่อมโยงความรู้ความคิด กับกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ นำไปใช้ในการดำรงชีวิต และศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม มีเจตคติที่ดีทางวิทยาศาสตร์ คือ มีความสนใจ มุ่งมั่น อดทน รอบคอบ ซื่อสัตย์ ประหยัด มีเหตุผล ยอมรับความคิดเห็นของผู้อื่น ทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างสร้างสรรค์ มีคุณธรรม ค่านิยมที่พึงประสงค์ และมีเจตคติที่ดีต่อวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม
ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเป็นปรัชญาชี้ถึงแนวการดำรงอยู่และปฏิบัติตนของประชาชนในทุกระดับให้ดำเนินไปในทางสายกลาง เพื่อให้ก้าวทันต่อโลกยุคโลกาภิวัตน์ ซึ่งภายใต้สภาวะการณ์ปัจจุบันหลายหน่วยงานทั้งของภาครัฐและเอกชน ได้น้อมนำหลักคิดของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้เป็นแนวทางแก้ไขปัญหาและปรากฏความสำเร็จเป็นรูปธรรมมากขึ้น และจากความมุ่งหมายและหลักการของพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 ในหมวด 1 มาตรา 6 ว่าด้วยการจัดการศึกษา ต้องเป็นไปเพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ สติปัญญา ความรู้และคุณธรรม มีจริยธรรมและวัฒนธรรมในการดำรงชีวิต สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข รวมถึง มาตราที่ 22 กล่าวว่า การจัดการศึกษาที่ต้องยึดหลักว่าผู้เรียนทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ และถือว่าผู้เรียนมีความสำคัญที่สุด กระบวนการจัดการศึกษาต้องส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาตามธรรมชาติและตามศักยภาพ
กลุ่มสาระการเรียนรู้โรงเรียนศรัทธาศิลาเพชรรังสรรค์ ได้จัดทำหลักสูตรวิทยาศาสตร์ท้องถิ่น ข้าวนาพื้นเมืองน่ารู้คู่ภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยใช้หลักความพอประมาณ ความมีเหตุผล มีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัวและมีคุณธรรมกำกับความรู้เป็นกรอบในการดำเนินชีวิตและเป็นพลเมืองดีของชาติ ที่สอดคล้องกับสาระเกี่ยวกับชีวิตกับการดำรงชีวิต สาระเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตกับสิ่งแวดล้อม สาระเกี่ยวกับธรรมชาติของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตามมาตรฐานการเรียนรู้ที่กำหนดไว้ในกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ และจัดการเรียนรู้แบบบูรณการกับกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เกี่ยวกับสาระหน้าที่พลเมือง วัฒนธรรมและการดำเนินชีวิตในสังคม อีกทั้งจัดบูรณาการเรียนรู้ร่วมกับกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สาระที่เกี่ยวกับการดำรงชีวิตและครอบครัว สาระเทคโนโลยีสารสนเทศ ให้เหมาะสมสอดคล้องกับปัญหาและความต้องการของท้องถิ่น ซึ่งเมื่อจบหลักสูตรวิทยาศาสตร์ท้องถิ่นนี้แล้ว ทำให้นักเรียนมีความรู้ ความคิด มีทักษะกระบวนการและจิตวิทยาศาสตร์ มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับข้าวนาพื้นเมือง ซึ่งเป็นพืชอาหารหลักที่มีการปลูกอยู่ในท้องถิ่น สามารถนำข้าวนาไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ทั้งอาหารคาวหวานที่สามารถสร้างรายได้ให้กับครอบครัว โดยจะทำเป็นอาชีพเสริมหรืออาชีพหลักได้ และใช้เป็นพื้นฐานในการเรียนต่อในระดับสูงขึ้นไป นอกจากนั้นนักเรียนสามารถนำเอาความรู้ที่ได้เรียนไปเผยแพร่ให้กับผู้ปกครอง ประชาชนในชุมชนได้
ดังนั้นกลุ่มสาระการรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนศรัทธาศิลาเพชรรังสรรค์ จึงพัฒนาต่อยอดขยายผลหลักสูตรวิทยาศาสตร์ท้องถิ่น ข้าวนาพื้นเมืองน่ารู้คู่ภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ให้กับชุมชน โดยให้ผู้ปกครองนักเรียนและประชาชนในตำบลศิลาเพชรเป็นเครือข่ายผู้ผลิตและจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ข้าวนาพื้นเมือง ข้าวนาที่ประชาชนปลูก ส่งเสริมให้ปลูกข้าวไรซ์เบอร์รี่ และแปรรูปข้าวนาเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ นำมาวางจำหน่ายได้ที่โรงเรียนชาวนาบ้านนาคำ ตำบลศิลาเพชร อำเภอปัว จังหวัดน่าน
|
วัตถุประสงค์ |
2. วัตถุประสงค์
1. เพื่อให้นักเรียน เรียนรู้เรื่องการทำนาปลูกข้าวนา ข้าวไรซ์เบอร์รี่ วัฒนธรรมประเพณีเกี่ยวกับข้าวนา จากภูมิปัญญาท้องถิ่นโรงเรียนชาวนา บ้านนาคำ ตำบลศิลาเพชร อำเภอปัว จังหวัดน่าน
2. เพื่อให้นักเรียนมีความรู้ ตระหนักถึงความสำคัญและเห็นคุณค่าของการทำนาปลูกข้าวที่สามารถนำไปประกอบเป็นอาชีพตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
3. เพื่อให้นักเรียนเรียนรู้การแปรรูปข้าวนาเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ และเผยแพร่ให้กับชุมชนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
4. เพื่อจัดตั้งให้โรงเรียนชาวนาบ้านนาคำ ตำบลศิลาเพชร อำเภอปัว จังหวัดน่าน เป็นศูนย์จำหน่ายรวบรวมเมล็ดพันธุ์ข้าวนา ข้าวไรซ์เบอร์รี่และผลิตภัณฑ์จากข้าวนาของตำบลศิลาเพชร สร้างรายได้และเกิดอาชีพที่ยั่งยืนให้กับชุมชนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
|
เป้าหมาย |
3. เป้าหมายตัวชี้วัดโครงการ
เชิงปริมาณ
1. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 และ 6 โรงเรียนศรัทธาศิลาเพชรรังสรรค์ ต.ศิลาเพชร อ.ปัว จ.น่าน ได้เรียนรู้ ตามหลักสูตรวิทยาศาสตร์ข้าวนาพื้นเมืองน่ารู้คู่ภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ร้อยละ 100
2. ผู้ปกครองนักเรียนชั้นมัธยมปีที่ 5 และ 6 ประกอบอาชีพทำนาปลูกข้าวเข้าร่วมเป็นเครือข่ายผู้ผลิตและจำหน่ายพันธุ์ข้าวนา โรงเรียนชาวนาบ้านนาคำ ต.ศิลาเพชร อ.ปัว จ.น่าน ตามหลักสูตรวิทยาศาสตร์ข้าวนาพื้นเมืองน่ารู้คู่ภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ร้อยละ 60
3. ประชาชนในตำบลศิลาเพชรที่ประกอบอาชีพทำนาปลูกข้าว เข้าร่วมเป็นเครือข่ายผู้ผลิตและจำหน่ายพันธุ์ข้าวนา โรงเรียนชาวนาบ้านนาคำ ต.ศิลาเพชร อ.ปัว จ.น่าน ตามหลักสูตรวิทยาศาสตร์ข้าวนาพื้นเมืองน่ารู้คู่ภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ร้อยละ 60
4. นักเรียน ผู้ปกครองนักเรียน ประชาชนในตำบลศิลาเพชร แปรรูปข้าวนาและผลิตภัณฑ์จากข้าวนา ประกอบเป็นอาชีพและสร้างรายได้ให้กับครอบครัว ตามหลักสูตรวิทยาศาสตร์ข้าวนาพื้นเมืองน่ารู้คู่ภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ร้อยละ 60
เชิงคุณภาพ
1. นักเรียนมีความรู้เกี่ยวกับข้าวนาพื้นเมืองและสามารถทำนาปลูกข้าว ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงอย่างมีประสิทธิภาพในระดับดี
2. นักเรียนมีองค์รู้เกี่ยวกับข้าวและสามารถนำข้าวนาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ สร้างเป็นรายได้และประกอบอาชีพได้ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงอย่างมีประสิทธิภาพในระดับดี
3. นักเรียนนำความรู้ที่ได้จากการเรียนรู้ตามหลักสูตรวิทยาศาสตร์ข้าวนาพื้นเมืองน่ารู้คู่ภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงอย่างมีประสิทธิภาพไปเผยแพร่ให้กับผู้ปกครองและประชาชนในชุมชนในระดับดี
4. นักเรียน ผู้ปกครองนักเรียน ประชาชนในตำบลศิลาเพชร แปรรูปข้าวนาและผลิตภัณฑ์จากข้าวนา ประกอบเป็นอาชีพและสร้างรายได้ให้กับครอบครัว ตามหลักสูตรวิทยาศาสตร์ข้าวนาพื้นเมืองน่ารู้คู่ภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันและประกอบอาชีพในระดับดี
|
ระยะเวลา |
16 เม.ย. 2561 - 30 ก.ย. 2561 |
สถานที่ดำเนินการ |
โรงเรียนชาวนาตำบลศิลาเพชร และโรงเรียนศรัทธาศิลาเพชรรังสรรค์ |
ตัวชี้วัด |
3. เป้าหมายตัวชี้วัดโครงการ
เชิงปริมาณ
1. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 และ 6 โรงเรียนศรัทธาศิลาเพชรรังสรรค์ ต.ศิลาเพชร อ.ปัว จ.น่าน ได้เรียนรู้ ตามหลักสูตรวิทยาศาสตร์ข้าวนาพื้นเมืองน่ารู้คู่ภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ร้อยละ 100
2. ผู้ปกครองนักเรียนชั้นมัธยมปีที่ 5 และ 6 ประกอบอาชีพทำนาปลูกข้าวเข้าร่วมเป็นเครือข่ายผู้ผลิตและจำหน่ายพันธุ์ข้าวนา โรงเรียนชาวนาบ้านนาคำ ต.ศิลาเพชร อ.ปัว จ.น่าน ตามหลักสูตรวิทยาศาสตร์ข้าวนาพื้นเมืองน่ารู้คู่ภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ร้อยละ 60
3. ประชาชนในตำบลศิลาเพชรที่ประกอบอาชีพทำนาปลูกข้าว เข้าร่วมเป็นเครือข่ายผู้ผลิตและจำหน่ายพันธุ์ข้าวนา โรงเรียนชาวนาบ้านนาคำ ต.ศิลาเพชร อ.ปัว จ.น่าน ตามหลักสูตรวิทยาศาสตร์ข้าวนาพื้นเมืองน่ารู้คู่ภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ร้อยละ 60
4. นักเรียน ผู้ปกครองนักเรียน ประชาชนในตำบลศิลาเพชร แปรรูปข้าวนาและผลิตภัณฑ์จากข้าวนา ประกอบเป็นอาชีพและสร้างรายได้ให้กับครอบครัว ตามหลักสูตรวิทยาศาสตร์ข้าวนาพื้นเมืองน่ารู้คู่ภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ร้อยละ 60
เชิงคุณภาพ
1. นักเรียนมีความรู้เกี่ยวกับข้าวนาพื้นเมืองและสามารถทำนาปลูกข้าว ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงอย่างมีประสิทธิภาพในระดับดี
2. นักเรียนมีองค์รู้เกี่ยวกับข้าวและสามารถนำข้าวนาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ สร้างเป็นรายได้และประกอบอาชีพได้ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงอย่างมีประสิทธิภาพในระดับดี
3. นักเรียนนำความรู้ที่ได้จากการเรียนรู้ตามหลักสูตรวิทยาศาสตร์ข้าวนาพื้นเมืองน่ารู้คู่ภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงอย่างมีประสิทธิภาพไปเผยแพร่ให้กับผู้ปกครองและประชาชนในชุมชนในระดับดี
4. นักเรียน ผู้ปกครองนักเรียน ประชาชนในตำบลศิลาเพชร แปรรูปข้าวนาและผลิตภัณฑ์จากข้าวนา ประกอบเป็นอาชีพและสร้างรายได้ให้กับครอบครัว ตามหลักสูตรวิทยาศาสตร์ข้าวนาพื้นเมืองน่ารู้คู่ภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันและประกอบอาชีพในระดับดี
|
ผลที่คาดว่าจะได้รับ |
. ผลที่คาดว่าจะได้รับ
1. นักเรียนนำความรู้ที่ได้จากการเรียนรู้ไปประกอบอาชีพและเป็นพื้นฐานของการเรียนต่อ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
2. ผู้ปกครองนักเรียนชั้นมัธยมปีที่ 5 และ 6 ที่ประกอบอาชีพทำนาปลูกข้าวเป็นเครือข่ายผู้ผลิตและจำหน่ายพันธุ์ข้าวนา ข้าวไรซ์เบอร์รี่กับ โรงเรียนชาวนาบ้านนาคำ ต.ศิลาเพชร อ.ปัว จ.น่าน
3 ประชาชนในตำบลศิลาเพชรที่ประกอบอาชีพทำนาปลูกข้าวเครือข่ายผู้ผลิตและจำหน่ายพันธุ์ข้าวนา ข้าวไรซ์เบอร์รี่ กับโรงเรียนชาวนาบ้านนาคำ ต.ศิลาเพชร อ.ปัว จ.น่าน
4. นักเรียน ผู้ปกครองนักเรียน ประชาชนในตำบลศิลาเพชร แปรรูปข้าวและผลิตภัณฑ์จากข้าวนา ประกอบเป็นอาชีพและสร้างรายได้ให้กับครอบครัว ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
5. โรงเรียนชาวนาบ้านนาคำ ตำบลศิลาเพชร อำเภอปัว จังหวัดน่าน เป็นศูนย์จำหน่ายเมล็ดพันธุ์ข้าวนา ข้าวไรซ์เบอร์รี่ และผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปมาจากข้าวนา ข้าวไรซ์เบอร์รี่
|
สรุปคะแนนประเมิน |
0.00 |
ไฟล์ประกอบ |
|
ขั้นเตรียมการ |
|
ขั้นดำเนินการ |
|
ขั้นตรวจสอบประเมินผล |
|
ขั้นสรุปและรายงาน |
|
งบประมาณ |
|
การบรรลุตัวชี้วัด |
|
ความพึงพอใจ |
|
ปัญหาและอุปสรรค |
|
ข้อเสนอแนะ |
|
รูปภาพประกอบ |
|