โครงการสานสัมพันธ์ วันทำบุญอบอุ่นทั้งตำบล
โรงเรียน : ศีขรภูมิพิสัย สพม.สุรินทร์
ระดับ : ระดับชาติ
กลุ่มสาระฯ : อื่นๆ
เผยแพร่เมื่อ : 17 ก.ย. 2561 โดย : จำนวนผู้เข้าชม 449 คน
ในช่วงเทศกาลเข้าพรรษาของทุก ๆ ปี คณะครูและนักเรียนพร้อมผู้ปกครองและชุมชน จะจัดกิจกรรมร่วมกัน คือไปทำบุญถวายภัตตาหารเพลที่วัด ด้วยรูปแบบ ๑ ตำบล ๑ วัด พร้อมพบปะชุมชนและเยี่ยมบ้านนักเรียน
วิธีดำเนินการ เริ่มต้นด้วยการประชุมนักเรียนทั้งโรงเรียน เพื่อแบ่งกลุ่มนักเรียนแต่ละตำบล เมื่อได้สมาชิกแต่ละตำบลแล้ว ให้ทุกตำบลดำเนินการเลือกตั้งตัวแทนนักเรียนประจำตำบลของตนเองในตำแหน่ง กำนันนักเรียนประจำตำบล อบต.นักเรียนประจำตำบล เหรัญญิก, มรรคทายก ประชาสัมพันธ์ กรรมการ และเลขานุการประจำตำบล เมื่อได้ตัวแทนแล้วคณะกรรมการนักเรียนแต่ละตำบลประชุมเพื่อกำหนดบทบาทหน้าที่แต่ละฝ่าย โดยมีกำนันประจำตำบลเป็นประธาน พร้อมวางแผนดำเนินกิจกรรม ซึ่งคณะกรรมการแต่ละฝ่ายมีบทบาทหน้าที่ดังนี้
กำนันนักเรียนประจำตำบลเป็นประธานกลุ่มตำบล มีหน้าที่ จัดประประชุมนักเรียนและคณะกรรมการประจำตำบล การวางแผนกิจกรรม กำหนดกรอบงานและความรับผิดชอบให้คณะกรรมการแต่ละฝ่าย
อ.บ.ต.นักเรียนประจำตำบล มีหน้าที่ประสานงานกับนักเรียน ผู้ปกครอง และชุมชนในหมู่บ้านของตนในการเข้าร่วมกิจกรรม
เหรัญญิก นักเรียนประจำตำบล มีหน้าที่รวบรวมปัจจัย เครื่องไทยทานเพื่อถวายแด่พระสงฆ์
มรรคทายกนักเรียนประจำตำบล มีหน้าที่ดำเนินพิธีการทางศาสนา
กรรมการนักเรียนประจำตำบล มีหน้าที่ช่วยเหลือและสนับสนุน คณะกรรมการแต่ละฝ่ายในการปฏิบัติกิจกรรม
ประชาสัมพันธ์ประจำตำบล มีหน้าที่ประชาสัมพันธ์ ติดต่อประสานงานกับวัด ชุมชน ผู้ปกครอง และดำเนินพิธีการในวันกิจกรรม
เลขานุการนักเรียนประจำตำบล มีหน้าที่จัดเตรียมเอกสาร บันทึกการเข้าร่วมกิจกรรม รวบรวมผลงานภูมิปัญญาท้องถิ่น และรายงานผลการเข้าร่วมกิจกรรม
เมื่อกำหนดบทบาทหน้าที่ และวางแผนการดำเนินกิจกรรมแล้ว ก่อนถึงวันทำบุญประมาณ 2 สัปดาห์ คณะกรรมการนักเรียนฝ่ายประชาสัมพันธ์ประจำตำบล แจ้งกิจกรรมให้นักเรียนแต่ละหมู่บ้านบ้านไปสืบค้นภูมิปัญญาท้องถิ่นภายในหมู่บ้านของตน โดยมี อบต. นักเรียนแต่ละหมู่บ้านเป็นหัวหน้ากิจกรรมสืบค้น แล้วเขียนรายงานตามรูปแบบที่กำหนดส่งให้เลขานุการตำบลในวันทำบุญ จากนั้นก่อนถึงวันทำบุญประมาณ 1 สัปดาห์ คณะกรรมการนักเรียนฝ่ายที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ติดต่อวัด ประชาสัมพันธ์เชิญชวนชุมชน ผู้ปกครอง และส่งหนังสือเชิญผู้นำชุมชนเพื่อให้มาร่วมกิจกรรมตามวันเวลาและสถานที่ที่กำหนด
กิจกรรมในวันทำบุญ เวลาประมาณ 10.00 น. นักเรียนพร้อมผู้ปกครอง ครู และชุมชน ซึ่งต่างพร้อมใจกันแต่งกายอนุรักษ์ไทยพร้อมปิ่นโตอาหาร เดินทางมาถึงวัดอย่างพร้อมเพรียง โดยมี คณะกรรมการนักเรียนรับลงทะเบียน และเหรัญญิกนักเรียนรับบริจาคจตุปัจจัยเวลาประมาณ 10.30 น. เป็นต้นไป ประชาสัมพันธ์นักเรียนประจำตำบลแจ้งวัตถุประสงค์ และกำหนดการการทำบุญ จากนั้นมรรคทายกนักเรียนประจำตำบล ดำเนินพิธีกรรมทางศาสนา โดยเริ่มจากการกล่าวคำบูชาพระรัตนตรัย อาราธนาศีล รับศีล และกล่าวคำถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์
ระหว่างพระสงฆ์ฉันภัตตาหาร ประชาสัมพันธ์นักเรียนประจำตำบลปฏิบัติหน้าที่พิธีกร กล่าวเชิญตัวแทนครูกล่าวหลักการเหตุผล วัตถุประสงค์ของกิจกรรมทำบุญและแนะนำครูที่ปรึกษา จากนั้นตัวแทนผู้นำชุมชนกล่าวพบปะคณะครู นักเรียน ผู้ปกครอง และให้ข้อคิดแนวทางการส่งเสริมและป้องกันพฤติกรรมนักเรียน ตัวแทนผู้ปกครองนักเรียนกล่าวแสดงความคิดเห็น ความรู้สึกต่าง ๆ
เมื่อพระสงฆ์ฉันภัตตาหารเสร็จเรียบร้อย มรรคทายกนักเรียนกล่าวนำคำอาราธนาธรรม พระสงฆ์แสดงธรรมเทศนาในหลักธรรมที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริม และป้องกันพฤติกรรมนักเรียน เสร็จแล้วพระสงฆ์ให้พร ประพรมน้ำมนต์ จากนั้น นักเรียน ครู ผู้ปกครอง และชุมชน รับประทานอาหารร่วมกัน
ภายหลังรับประทานอาหารเสร็จแล้ว ครู นักเรียน ผู้ปกครอง แยกกลุ่มตามห้องเรียนหรือตามสายชั้นเพื่อประชุม ปรึกษา นำเสนอ แลกเปลี่ยนข้อมูลพฤติกรรมนักเรียนกลุ่มปกติแล้วกำหนดแนวทางส่งเสริมพฤติกรรมที่ดีร่วมกัน จากนั้น ครูแยกพบนักเรียนและผู้ปกครองกลุ่มเสียงมีปัญหาเป็นรายบุคคล โดยใช้สถานที่เฉพาะตน เพื่อรายงานข้อมูลพฤติกรรม แล้วร่วมกันกำหนดวิธีการป้องกันแก้ไขพฤติกรรม เมื่อเสร็จสิ้นแล้วครูที่ปรึกษาออกเยี่ยมบ้านนักเรียนกลุ่มเป้าหมาย
ภายหลังวันทำบุญ คณะกรรมการนักเรียนประจำตำบลฝ่ายที่เกี่ยวข้อง รายงานผลการเข้าร่วมกิจกรรม รวบรวมผลงานการสืบค้นภูมิปัญญาท้องถิ่นทั้งตำบลจัดทำรูปเล่มเสนอต่อผู้บริหารโรงเรียน และนักเรียนทุกคนนำข้อเสนอแนะ ข้อปฏิบัติ ที่ได้จากครู ผู้ปกครองและชุมชน ในการส่งเสริมและป้องกันพฤติกรรมไปปฏิบัติ ด้านครูที่ปรึกษา ให้รายงานผลการปฏิบัติกิจกรรมต่อฝ่ายบริหาร และกำกับติดตามพฤติกรรมนักเรียนที่รับผิดชอบ เพื่อรายงานต่อโรงเรียนผู้ปกครองและชุมชนทุก ๆ 1 เดือน ส่วนผู้ปกครองและชุมชนให้ช่วยกำกับดูแล และสอดส่องพฤติกรรมของบุตรหลานหรือสมาชิกในชุมชนแล้วรายงานต่อครูที่ปรึกษา หรือโรงเรียนตลอดเวลา ตามความเหมาะสมหรือตามที่โรงเรียนต้องการ