1. ความสำคัญของผลงานหรือนวัตกรรมที่นำเสนอ
หากลองมองย้อนไปถึงสภาพของสังคมไทยในอดีต
จะเห็นว่าทุกภาคส่วนของประเทศไทยมีวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนคงจะไม่ผิดแผกแตกต่างกันมากนักใ
นด้านวัฒนธรรม ผู้คนในสังคมจะอยู่กันอย่างสันติสุข และมีความรู้จักสนิทคุ้นเคยกัน
ครอบครัวเป็นครอบครัวขยาย หากพ่อแม่ไปทำงาน ก็จะมีตา ยาย ปู่ ย่า ลุง ป้า น่า อา พี่ๆ
ช่วยกันดูแลอบรมสั่งสอนหลานอยู่ทุกวัน ทุกคนในสังคมคือญาติมิตรพี่น้อง ช่วยกันดูแลกันและกัน
ส่งผลให้เด็กๆได้เรียนรู้ถึงความอ่อนน้อมถ่อมตน ไปลา มาไหว้ สภาพสังคมที่ไม่ต้องจ้าง ไม่ต้องใช้เงินตรา
ใช้แต่น้ำใจแลกเปลี่ยนกัน ซึ่งวัฒนธรรมแบบนี้ส่งผลให้เด็กและเยาวชนประพฤติปฏิบัติตนตามแบบอย่างจารีต
ประเพณีที่ถูกต้องดีงาม ปลูกฝังให้เด็กๆมีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือกัน
ทุกๆเย็นจะมีล้อมวงทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตา มีเรื่องราวอะไรดีๆ ต้องประสบพบเจออะไรมาบ้าง
ก็จะมาเล่าสู่ลูกหลานฟังเป็นคติสอนใจ เป็นการสอนลูกหลานและสร้างความใกล้ชิด
ความอบอุ่นให้แก่เด็กๆด้วย
ทุกวันนี้สภาพครอบครัวที่เปลี่ยนแปลงไป ความสัมพันธ์ในครอบครัวลดลง
เนื่องจากการแข่งขันต่างๆเพื่อความอยู่รอดของแต่ละคน
และสื่อดิจิทัลโซเชียลมีเดียมีความสำคัญในชีวิตประจำวัน มีความน่าห่วง ทั้ง เร็ว ลวง และหลอน
มีตัวอย่างสภาวการณ์ให้เห็นจากลูกบางคนขอเงินพ่อแม่ไปเติมเงินโทรศัพท์ เพื่อใช้ในการเล่นเกมออนไลน์
สถิติแม่วัยใสเพิ่มขึ้นมาก เมื่อปี 2558 เด็กตั้งท้องอายุน้อยสุดอยู่ ม.4 แต่วันนี้ที่น่าตกใจ
เด็กประถมมีเพศสัมพันธ์กันในห้องน้ำของโรงเรียน
เด็กมหาวิทยาลัยที่อยู่ตามหอพักอยู่ด้วยกันอย่างสามีภรรยา มีการล่วงละเมิดทางเพศผ่านสื่อออนไลน์
ดังนั้นเราต้องตามโลกให้ทัน ต้องสร้างภูมิคุ้มกันให้ได้ ปัญหาที่เกิดจากโลกโซเซียลปัจจุบัน
ทำให้เกิดการเลียนแบบพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ถูกล่อลวง ใช้เวลาเข้าถึงสื่อมากเกินไป
เกิดการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล เล่นการพนันผ่านออนไลน์มากขึ้น จากข้อมูลพบว่าเด็กและเยาวชนร้อยละ
63.7 ชอบดูสื่อลามก ร้อยละ 15.7 เคยดาวน์โหลดภาพโป๊เปลือย ถูกล่อลวงกระทำชำเรามีแนวโน้มสูงขึ้น
สถิติเด็กอายุต่ำกว่า 19 ปีทำคลอดสูงกว่า 108,427 คน กว่า 1 ใน 2
ของเด็กและเยาวชนในระดับอุดมศึกษายอมรับการอยู่ก่อนแต่ง ขณะที่ปัญหาการใช้ความรุนแรงยังเพิ่มสูงขึ้น
จากการสำรวจข้อมูลสถิติสภาวการณ์ทางวัฒนธรรมของเด็กและเยาวชนไทยในช่วงที่ผ่านมาพบปัญหาสำคัญ
6 ด้านหลัก ได้แก่ อันดับ 1 ปัญหาเยาวชนเสพยาติดมากถึง 2.7 ล้านคน อายุระหว่าง 15-19 ปี จำนวน 3
แสนคนต้องเข้ารับการบำบัด ส่วนเยาวชนอายุ 11 ปีจำนวน 7 คนเริ่มเสพยาบ้า และอายุ 7 ปีส่งยาบ้า อันดับ
2 ปัญหาวัยรุ่นตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร จากสถิติพบว่า อายุต่ำกว่า 19 ปีลงมา ท้องถึงปีละ 1.5 แสนคน อันดับ
3 เด็กถูกละเมิดและกลั่นแกล้ง กระทำความรุนแรงโดยสื่อ อันดับ 4
การอบรมเลี้ยงดูของพ่อแม่ยุคใหม่ที่รักลูกแบบไม่ถูกทาง อันดับ 5 การเสพสื่ออนาจารผ่านสื่อออนไลน์
และอันดับ 6 การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เกิดนักดื่มหน้าใหม่ เพิ่มขึ้น 2.5 ล้านคน โดยอายุต่ำกว่า 20 ปี
สามารถซื้อหาเครื่องดื่มได้เองถึงร้อยละ 98.7 จากข้อมูลดังกล่าวถือเป็นสิ่งที่น่าตกใจ
เนื่องจากเด็กและเยาวชนเหล่านี้ถือเป็นอนาคตของชาติ
กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา
ได้เล็งเห็นความสำคัญของปัญหาที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของโลกในยุคปัจจุบัน จึงได้จัดกิจกรรม
“ไข่ต้มสอนคน”โดยใช้ชื่อกิจกรรมว่า “ไข่ต้มกับผมเอง” ขึ้น
เพื่อให้ผู้เรียนได้ลองปฏิบัติว่าการที่จะมีลูกก่อนวัยอันควร การที่ต้องดูแลลูก ต้องเอาใจใส่
ต้องทำมาหาเงินมาเลี้ยงลูกนั้นมันต้องมีความพร้อมมากแค่ไหน
และกิจกรรมนี้จะทำให้ผู้เรียนได้รู้ถึงความยากลำบากต่างๆของผู้ที่เป็นพ่อ แม่
ผู้ปกครองที่กว่าจะเลี้ยงลูกให้โตมาจนถึงทุกวันนี้ท่านต้องเหนื่อยยากลำบากแค่ไหน..
2. จุดประสงค์และเป้าหมาย ของการดำเนินงาน
2.1 เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนมีทักษะที่เหมาะสมในการป้องกัน ลดความขัดแย้งและแก้ปัญหาเรื่องเพศ
2.2 เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนมีคุณลักษณะที่พึงประสงค์
2.3 เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนเข้าใจและเห็นคุณค่าของชีวิต
3. กระบวนการผลิตผลงาน หรือขั้นตอนการดำเนินงาน
ขั้นนำ (Introduction)
1. ให้นักเรียนทุกคนนำไข่ต้มมาคนละ 1 ฟอง แล้วตั้งชื่อให้ไข่ต้มของตัวเอง พร้อมทั้งเขียนชื่อไว้ที่ไข่
2. ทันที่ที่ตั้งชื่อให้ไข่ต้ม นักเรียนคือเจ้าของ/ผู้รับผิดชอบไข่ต้ม โดยพฤตินัยแต่เพียงผู้เดียว
ขั้นสอน (Instruction) สิ่งที่ต้องปฏิบัติในฐานะของเจ้าของและผู้รับผิดชอบไข่ต้มก็คือ
- นำไข่ต้มไปทุกหนทุกแห่ง (ย้ำนะคะว่า “ทุกหนทุกแห่ง”) และดูแลเขาสุดความสามารถ
- ไม่ว่าไข่ต้มจะอยู่ในสภาพใดก็ต้องเก็บเอาไว้ไม่ทิ้งขว้าง และนำติดตัวไปทุกแห่งทุกสถานที่
- นำไข่ต้มหรือส่วนที่เกี่ยวข้องอื่นๆมาส่งครูตามที่ครูนัดหมาย
ขั้นสรุป (Conclusion)
1. หลังจากที่นักเรียนได้รับไข่ต้มไปอยู่ในความรับผิดชอบ นักเรียนต้องปฏิบัติตามหลักกติกาที่ว่า
“ต้องนำเขาติดตัวไปทุกหนทุกแห่ง ถึงแม้ว่าไข่ต้มจะแตกหรือเน่า”
2. ในระหว่างที่นักเรียนเลี้ยงดูไข่ต้ม “น้อง.............” อยู่นั้น เขาซน เถียง ดื้อ อาละวาด ต่อรอง เกเร
หรือร้องขออะไรจากนักเรียนไหม
3. นักเรียนประสบปัญหาอะไรบ้าง จากการเลี้ยงดูไข่ต้ม ซึ่งไม่ดื้อ ไม่ซน ไม่เถียง ไม่เกเร ไม่ต่อรอง
ไม่ร้องขอ ไม่ขอเงิน ไม่ใช้เงิน
4.
จากประสบการณ์ความยากลำบากไม่เป็นอิสระจากการเลี้ยงดูไข่ต้มที่นักเรียนได้สัมผัสได้ด้วยตัวเอง
เมื่อเทียบเคียงความยากลำบากของพ่อแม่ ผู้ปกครองที่เลี้ยงดูตัวเรามาตลอดระยะเวลา 17 ปี
ตั้งแต่เกิดจนถึงปัจจุบัน ที่มีทั้งความดื้อ ความซน ถกเถียง เกเร เรียกร้อง ต่อรอง ใช้เงินก็เปลือง เที่ยวก็เก่ง
และยังมีเรื่องให้ท่านเดือดร้อนใจสารพัด นักเรียนคิดว่าพ่อแม่
ผู้ปกครองของเราต้องประสบกับปัญหาอะไรบ้าง
5.
จากประสบการณ์ความยากลำบากไม่เป็นอิสระจากการเลี้ยงดูไข่ต้มที่นักเรียนได้สัมผัสได้ด้วยตัวเองนั้น
ทำให้นักเรียนมีความรู้สึกต่อพ่อแม่หรือผู้ปกครองที่เลี้ยงดูเรามาอย่างไรบ้าง
และนักเรียนอยากบอกอะไรกับบุคคลเหล่านั้นบ้าง
6.
จากประสบการณ์ความยากลำบากไม่เป็นอิสระจากการเลี้ยงดูไข่ต้มที่นักเรียนได้สัมผัสได้ด้วยตัวเองนั้น
ให้นักเรียนลองประเมินตัวเองดูสิว่า “นักเรียนมีความพร้อมที่จะทำหน้าที่พ่อของลูก” หรือยัง
4. ผลการดำเนินการ/ผลสัมฤทธิ์/ประโยชน์ที่ได้รับ
กิจกรรมไข่ต้มสอนคน ไข่ต้มกับผลเองได้รับการตอบรับจากผู้เรียนและผู้ปกครองเป็นอย่างดี
เห็นได้จากที่มีผู้ปกครองหลายท่านโทรมาหาครูผู้สอน ส่งการ์ดขอบคุณ
ส่งข้อความทางสื่ออิเล็กทรอนิคมาหาครูผู้สอน โดยสามารถสรุปสั้นๆได้ว่า
“ขอบพระคุณอาจารย์ดาวเรืองที่จัดให้มีกิจกรรมการเรียนการสอนดีๆแบบนี้เกิดขึ้น
ซึ่งตอนแรกผู้ปกครองก็งงว่าครูให้เอาไข่ต้มและพกไข่ต้มไปโรงเรียนทำไม
แล้วทำไมต้องให้พกพาไข่ด้วยในทุกๆที่ให้เกิดความลำบากกับลูกๆด้วย แถมไข่ต้มก็แตก ส่งกลิ่นเหม็นด้วย
แต่พอจบกิจกรรมก็ได้ปลื้มจนน้ำตาไหล...ที่เห็นลูกเอาพวงมาลัยมาไหว้
ซึ่งครอบครัวเราไม่มีแบบนี้มานานแล้ว”
5. ปัจจัยความสำเร็จ
กิจกรรมนี้ได้รับความร่วมมือจากครูและบุคลากร
นักเรียนและผู้ปกครองโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยทุกๆท่านเป็นอย่างดี
6. บทเรียนที่ได้รับ (Lesson Learned)
กิจกรรมไข้ต้มกับผมเอง ซึ่งมีกติกาและข้อตกลงร่วมกันว่าให้ผู้เรียนนำไข้ต้มมาคนละ 1 ฟอง
แล้วให้ตั้งชื่อไข่ต้ม เลือกเพศ พร้อมกับรับลายเซนของครูไปในวันแรก
จากนั้นให้ผู้เรียนพกพาไข่ต้มไปด้วยในทุกๆที่ ทุกหนทุกแห่ง
แต่ปัญหาที่พบคือผู้เรียนเอาไข่ไปแช่ในตู้เย็นเพราะกลัวไข่จะเน่าแต่ลืมเอาพกติดตัวไปด้วย
บางคนเอาไข่พกติดตัวไปด้วย แต่ไปลืมวางไว้ใต้โต๊ะบ้าง ห้องเรียนปฏิบัติการบ้างทำให้ไข่เน่าส่งกลิ่นเหม็น
ฉะนั้นในคราวต่อไปควรจะทำแบบประเมินเช็คไข่ต้มกับนักเรียนเป็นเวลา
โดยผ่านทางโซเซี่ยวแอปพลิเคชั่น โดยให้ส่งรูปถ่ายพร้อมกับไข่ต้มและบอกว่าทำอะไรอยู่...อยู่ที่ไหน...
7. การเผยแพร่/การได้รับการยอมรับ/รางวัลที่ได้รับ
- กิจกรรมไข่ต้มกับผมเอง ได้นำไปเผยแพร่ผลงานในงานสัมมนา 11 สวนฯสัมพันธ์ ที่
โรงแรมแอมบาสเดอร์บางขุนเทียน จ.ชลบุรี ในวันที่ 10-12 กรกฎาคม 2562
- กิจกรรมไข่ต้มกับผมเอง ได้รับคัดเลือกให้เป็นตัวแทนการนำเสนอ Best Practice
ของกลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ในวันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ.2562 ในงาน....